หวัดดีครับผมกลับมาแล้วครับครั้งนี้ผมได้ไปเที่ยวกาญจน์กับครอบครัว
(เจ้านาย) มาครับ ประมาณสองอาทิตย์ที่ผ่านมาครับ
(17-18 ก.ค. 42)
พวกเราเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางแต่
ผมต้องรอเจ้านายของผมคือ
ลูกคนโตของครอบครัวนี้เพราะว่า เจ้านายของผมไปเรียนตั้งแต่เช้า
ผมก็รอเตรียมพร้อมที่จะไปตั้งแต่เย็น
รอจนถึงสองทุ่ม เจ้านายของผมก็เข้ามา
ต่อมาพวกเขาก็กำลังจัดของ เสื้อผ้า
เพื่อจะเตรียมออกเดินทางกัน
ประมาณสี่ทุ่มครับพวกเราออกจากที่บ้านกัน
มันมืด ตืดตื๋อ เลยครับ
นาน นาน พวกเราจะออกไปเที่ยวตอนดึก
ๆ เพราะว่ามันอันตรายครับ
ตลอดการเดินทางประมาณสามชั่วโมง ผมนอนมาเลยครับ แล้วก็มาถึงที่หมาย
ผมรู้สึกตื่นเต้นมากเลยครับ เพราะว่าผมไม่ได้มาเที่ยวนานแล้วครับ
แล้วผมก็เห็นเจ้านายของผมช่วยกันยกของ
ส่วนผมสบายมากเลยครับ แม่ผม(แม่ของเจ้านาย)
ก็อุ้มผมจนกว่าพวกเขาจะยกของสร็จ ผมก็ได้แต่มองว่าเมื่อไรจะได้ลงเดินสักทีเพราะว่า
ผมปวดฉิ๋ง ฉ๋อง หลังจากนั้นพวกเขาก็
เก็บของกัน มันก็ดึกมากแล้วพวกเขาก็เข้านอนกันรวมทั้งตัวของผมด้วยก็มานอนต่ออีกข้าง
ๆ เจ้านายผม ชีวิตผมมีอยู่แค่นี้และครับนอนกับนอน
พอถึงรุ่งเช้าผมก็ตื่นนอนเดินไปเลียหน้าเจ้านายเพื่อที่จะปลุกเขา
ต่อมาจนกระทั่งตกเย็น พวกเขาก็ว่ายน้ำกัน
รวมทั้งผมด้วย ผมร้อง
หงิง หงิง เพื่อที่ว่าผมอยากจะลงไปเล่นด้วย
แต่ผมก็กล้า ๆ กลัว
ๆ แต่เจ้านายของผมมีชูชีพสำหรับผม
มันวิเศษมากเลยครับ มันเข้ากับตัวผมได้พอดีเลย
ภาพก่อนลงน้ำ
|
แต่พอเจ้านาย
ของผมใส่ให้ผม ผมรู้สึกอึดอัดมากเลยครับ
แต่มันปลอดภัยสำหรับผมครับ
และความวาบหวิวก็เข้ามา เจ้านายของผมจับผม
หย่อนครับ ค่อย
ๆ หย่อนตัวผมลงในน้ำ ผมเสียวไปทั้งตัวเลยครับ
เพราะน้ำมันเย็นเจี๋ยบ
และผมก็ยังไม่แน่ใจว่าเจ้าชูชีพแสนสวย
ของผมมันจะสามารถรับน้ำหนักประมาณสี่กิโลของผมได้หรือเปล่า
ต้องลองดูครับ ได้ครับมันลอยได้ครับ
แต่ผมยังไม่แน่ ใจอยู่ดี
ขาหน้าและหลังพร้อมใจกันตีน้ำพยุงตัวผมขึ้น
แล้วมันก็เคลื่อนที่ได้ครับ
เร็วราวกับว่าผมเป็นเรือสปีดโบ๊ทเลยครับ
|
เรือสปีดโบ๊ท หรือ จะสู้ผม ฮ่าๆๆ
|
ผมเล่นสักพักก็เริ่มหนาวร้องเรียกเจ้านายให้เอาผมขึ้น
แล้วผมก้ขึ้นไปวิ่งเล่นข้างบนต่อ
ด้วยความคึกที่มีอยู่ ผมวิ่งรอบบ้านไป
มาจนหอบ แหก ๆ แต่ผมขัดความสุขของเจ้านายผมครับ
เพราะเขาก็ต้องรีบขึ้นมาเป่าขนให้ผม
จนเสร็จขนของผมก็แห้ง และ ฟู ฟู
เหมือนเดิม
|
หลังจากนั้นมีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นภายในร่างกายของผมครับ
ท้องครับ ท้องมันร้อง จ๋อก จ๋อก ซึ่งแสดงว่าผมต้องหาอะไรกินแล้ว
ผมจึงเดินไปข้างเสาครับ เอ๊ เอ๊ ไม่ได้ไปฉี่นะ
ที่ที่ตรงนั้นมีจานข้าวของผมวางอยุ่
มีอาหารอันโอชะ ที่เย็นเฉียบ เพราะมันวางอยู่ตรงนั้น
ตั้งแต่เช้า
เป็นเพราะความเรื่องมากของผมเองครับ
ที่ไม่ยอมกินมันตั้งแต่เช้า
ไม่งั้นถ้าผมกินมันตั้งแต่เช้า ตอนนี้คงจะมีสเต๊กจานใหม่แล้วครับ
ประมาณหนึ่งทุ่มของวันถัดมา พวกเราก็เดินทางกลับบ้านกัน
พอรถเริ่มเคลื่อนผมก็ดูออกไปนอกหน้าได้สักพักหนึ่ง
ขาของผมไม่ สามารถยืนอยู่ได้เพราะความง่วง
ผมเลยทิ้งตัวของผมลงบนตักของแม่
นอนครับ นอนอีกแล้ว จนกระทั่งถึงร้านข้าวซึ่งพวกเขา
จอดแวะกินกันระหว่างทาง
ผมต้องพาร่างซึ่งง่วงมากลงตามเจ้านายเข้าไปในร้านข้าว
ผมรู้สึกว่าตัวของผมงี่เง่ามากเลย
ผมง่องแง่งครับ
สักพักผมก็หลับคาเก้าอี้ที่ร้านอาหารตื่นขึ้นมาอีกทีตัวของผมก็มาอยู่ในรถแล้วครับ
แล้วผมก็ทำหน้าที่ของผมคืออะไรรู้ไหมครับ
หลับต่อครับ หลับต่อจนถึงบ้านเลยแค่นี้แหละครับสำหรับการเที่ยวของผมทริปนี้
เป็นไงบ้างครับสนุกมั้ย รู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์หรือเปล่าครับ
ถ้ามีโอกาสคราวหน้าผมจะมาเล่าให้ฟังอีกนะครับ